โทรศัพท์มือถือรุ่นไหนดีหรือไม่ดี ดูยังไงให้ตรงกับความต้องการ

คำถามที่พบบ่อยสำหรับคนที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือ เราจะเลือกรุ่นไหนดี? หากไปดูในท้องตลาดขณะนี้ก็มีให้เลือกกันมากมายซะเหลือเกินจนตาลายไปหมด หลายคนตัดสินใจเลือกโทรศัพท์มือถือจากยี่ห้อ เอาที่ดังๆ มีชื่อเสียงไว้ก่อน หลายคนตัดสินใจเลือกที่ราคา เอาที่ใกล้เคียงกับเงินในกระเป๋าของเรามากที่สุด หลายคนตัดสินใจเลือกจากเพื่อนหรือคนรู้จักแนะนำ เอาที่คนใกล้ชิดเคยใช้มาแล้วและบอกว่าดี แต่ไม่ว่าเป็นยังไง วันนี้บทความนี้ขอนำเสนอแนวทางในการเลือกโทรศัพท์มือถือเพื่อให้คุณสามารถใช้เพื่อนำไปตัดสินใจซื้อรุ่นที่ตรงกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

เลือกระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ

สิ่งแรกและง่ายที่สุดที่จะทำได้คือ เลือกระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือที่คุณต้องการก่อน คุณอาจไปทดลองใช้งานระบบปฏิบัติการแต่ละประเภทกับเครื่องจริงตามร้านในห้างสรรพสินค้าดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 ระบบปฏิบัติการในท้องตลาด ได้แก่

iOS หากคุณต้องการใช้โทรศัพท์มือถือจากค่าย Apple อย่าง iPhone หากคุณไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ (ราคาสูงสุด) และต้องการระบบปฏิบัติการที่มีความโดดเด่นด้านความปลอดภัย มีเสถียรภาพสูง และเป็นระบบปิดที่ไม่ถูกปรับแต่งจากใครยกเว้นจากทาง Apple เท่านั้น นี่จะเป็นตัวเลือกของคุณ

iPhone

Android หากคุณชื่นชอบบริการจาก Google ระบบปฏิบัติการนี้จะถูกพัฒนาโดย Google ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบรนด์มือถือที่นอกเหนือจาก Apple จะใช้ระบบปฏิบัติการนี้ทั้งสิ้น และเนื่องจาก Android มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง ผลิตมือถือจากแบรนด์ต่างๆ จึงสามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการให้เป็นไปตามความต้องการของแบรนด์ของตัวเองได้ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ในโลกจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android นี้ เนื่องจากเมื่อมีโทรศัพท์มือถือหลายแบรนด์ในตลาดก็เกิดการแข็งขันกัน ทำให้ราคาจึงลดลงด้วย ประชาชนจึงสามารถเข้าถึงได้มากกว่า โทรศัพท์มือถือที่เป็น Android มีราคาตั้งแต่ถูกไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลายหมื่นบาท เป็นมือถือเรือธง แข่งขันกับ iPhone จากค่าย Apple อย่างกว้างขวางในท้องตลาด

Android

Windows Phone เป็นระบบปฏิบัติของโทรศัพท์มือถือที่มีผู้ใช้น้อยที่สุดจาก 2 ชนิดแรกข้างต้น แต่หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ด้านซอฟแวร์ของบริษัท Microsoft เป็นพิเศษโดยเฉพาะสำหรับการทำงาน ระบบปฏิบัติการนี้จะเป็นตัวเลือกของคุณ

เลือกโทรศัพท์มือถือตามงบประมาณ

เมื่อรู้จักระบบปฏิบัติการแต่ละประเภทที่กล่าวข้างต้นแล้ว ทีนี้ก็มาดูงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ หากคุณพร้อมที่จะจ่ายสำหรับมือถือระดับเรือธง (ปัจจุบัน ก็ตั้งแต่ 2 หมื่น 5 พันบาทขึ้นไป) คุณสามารถเลือกโทรศัพท์มือถือ iOS อย่าง iPhone หรือไม่ก็ฝั่ง Android อย่างโทรศัพท์มือถือเรือธงของ Samsung, Sony, Huawei เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามหากคุณมีเงินที่พร้อมจะจ่ายน้อยกว่านั้น โทรศัพท์มือถือที่คุณสามารถเลือกได้และเหมาะสมที่สุดคือ Android จากแบรนด์มือถือต่างๆ มากมายที่มีให้เลือก ซึ่งถึงตอนนี้ คุณจะต้องเลือกตัดสินใจตามสเปคอื่นๆ ของมือถือ Android อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย อย่างเช่น กล้องดีแค่ไหน ซีพียูและแรมให้มามากน้อยเพียงใด เป็นต้น ซึ่งจะอธิบายในหัวข้อถัดไป (ขณะที่มือถือเรือธง สเปคเครื่องอาจจะไม่จำเป็นต้องเลือกอะไรมาก เนื่องจากมีราคาแพงที่สุด จึงได้สเปคที่แรงที่สุดทุกๆ ชิ้นส่วนอยู่แล้ว) อย่างไรก็ตาม หากคุณยังคงชอบหรือเป็นสาวกตัวยงของ Apple และยังไงก็อยากที่จะใช้ iPhone แต่มีงบน้อย อาจจะเลือกซื้อ iPhone ที่ไม่ใช่รุ่นล่าสุดดู นั่นเพราะ เมื่อ iPhone รุ่นล่าสุดออกมา iPhone รุ่นก่อนหน้าก็จะมีราคาลดลงไปกว่าเดิมค่อนข้างมาก นี่ถือเป็นโอกาสที่จะสามารถซื้อได้

โทรศัพท์มือถือระดับราคากลางๆ ก็มีดี คุ้มค่ากับการใช้งานกว่า

เมื่อโทรศัพท์มือถือระดับเรือธงหรือตัวท็อปสุดของแบรนด์มีราคาสูงไป (บางคนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องจ่ายเงิน 2-3 หมื่นบาท) มือถือระดับกลางที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จึงเหมาะสมสำหรับคุณมากที่สุด ระดับราคาตั้งแต่ 1 หมื่น 5 พันบาท ลงมาจนถึง 6 พันบาท และด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดนี้ ทำให้ความสามารถของมือถือในระดับนี้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่ามือถือระดับเรือธงที่มีราคา 2 หมื่นบาทขึ้นไป แต่เมื่อใช้งานจริงๆ มือถือระดับกลางก็สามารถรองรับการใช้งานของคุณได้ทุกอย่างเป็นอย่างดี

ในการเลือกโทรศัพท์มือถือระดับกลางรุ่นไหนดีนั้น นอกจากแบรนด์ที่คุณชื่นชอบแล้ว การดูสเปคเครื่องก็สามารถเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินค้าซื้อได้เป็นอย่างดี โดยดูจากพฤติกรรมการใช้งานเป็นหลัก นั่นคือ

  • หากคุณเป็นคนชอบถ่ายภาพหรือชอบเซลฟี่ คุณก็ควรเลือกโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องความละเอียดสูงๆ เป็นหลัก ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือระดับกลางส่วนใหญ่ก็มีกล้องความละเอียดระดับ 10 ล้านพิกเซลขึ้นไปแทบทั้งหมดแล้ว แม้ไม่ใช่ระดับท็อปที่สุด แต่ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานแทบทุกอย่างในชีวิตประจำวันแล้ว และควรเลือกรุ่นที่มีหน่วยความจำภายในเครื่องหรือ ROM ที่มีความจุมากไว้ก่อน เนื่องจากจะสามารถเก็บรูปภาพได้จำนวนมากกว่านั้นเอง

  • หากคุณเป็นคนชอบเล่นเกมบนมือถือหรือใช้แอปที่ต้องประมวลผลสูงๆ คุณก็ควรเลือกโทรศัพท์มือถือที่มีหน่วยความจำของระบบหรือ RAM สูงๆ ในปัจจุบันแรม 3-4 GB เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายทั่วไปในท้องตลาดแล้ว และก็ควรเลือกความเร็วในการประมวลผลหรือ CPU ที่แรงๆ ยิ่งมีความเร็วมากเท่าไรก็ยิ่งดีและควรมี Core หรือแกนสมองของ CPU 8 Core ขึ้นไป นอกจากนี้ก็ควรเลือกที่จอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ความคมชัดสูงๆ และควรเป็นจอที่ผลิตด้วยกระจกกันกระทบและกันรอยขีดข่วนหรือที่เรียกกว่า Gorilla Glass นั่นเอง หากชอบเล่นเกม 3 มิติบนมือถือ ก็ควรเลือกมือถือที่มีการ์ดกราฟฟิกดีๆ ซึ่งมันนี้มือถือระดับกลาง อาจเสียเปรียบมือถือระดับเรือธงอยู่พอสมควร

  • หากคุณเป็นคนชอบใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook แอปแชทต่างๆ อย่าง Line หรือดูคลิปวิดีโอผ่าน Youtube อยู่บ่อยๆ คุณสามารถเลือกโทรศัพท์มือถือระดับราคากลางได้ทุกรุ่นในตลาด เนื่องจากการใช้งานโซเชียลหรือดูคลิปวิดีโอ Youtube นั้นถือเป็นพื้นฐานที่มือถือในระดับนี้ต้องทำงานได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ส่วนจะเลือกรุ่นไหนยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ความชอบและงบประมาณหรือเงินในกระเป๋าคุณแล้ว

อย่ามองข้ามโทรศัพท์มือถือระดับล่างในปัจจุบัน

โทรศัพท์มือถือระดับล่าง ที่มีราคาไม่กี่พันบาท แม้ว่าจะไม่เหมาะกับการใช้เล่นเกมก็จริง แต่หากเลือกดีๆ บางรุ่นของบางยี่ห้อ อาจจะมีสเปคและกล้องที่ดีกว่าที่คิด ดังนั้นหากคุณเป็นเพียงผู้ใช้ที่โทรเข้าโทรออก เล่น Line แชทคุยกับเพื่อน เล่น Facebook กดไลค์กดแชร์ และดู Youtube เป็นครั้งคราว หรือหากเล่นเกมก็เล่นเกมทั่วไปโดยแทบจะไม่ได้เล่นเกมมือถือ 3 มิติ ที่ต้องการการประมวลผลอะไรมาก การใช้โทรศัพท์มือถือระดับราคา 3-4 พันบาทก็อาจจะเพียงพอ

เลือกมือถือ ต้องดูที่แบตเตอรี่ด้วย

ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือไม่ว่ารุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ให้ดูความจุของแบตเตอรี่ของเครื่องด้วยว่ามากน้อยเพียงไร แม้ว่าปัจจุบันมือถือรุ่นใหม่แบตเตอรี่ที่ให้มาจะมีความจุค่อนข้างมากเพียงพออยู่แล้วเนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น แต่มือถือเรือธงหรือระดับกลางหลายๆ รุ่น แบตเตอรี่จะถูกประกอบเข้ากับตัวเครื่องโดยที่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เหมือนแต่ก่อน เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นถ้าจุได้มากกว่าก็ยิ่งดี ตัวเลขที่เหมาะคือ ตั้งแต่ 2,500 mAH ขึ้นไป ซึ่งก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบปกติทั่วไปได้ตลอดทั้งวัน แต่หากคุณเล่นเกมด้วยแล้ว แบตเตอรี่ของคุณจะยิ่งหมดเร็วมากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ ก็ควรเลือกโทรศัพท์มือถือที่ให้แบตเตอรี่ที่จุไฟได้มากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกมือถือที่มีความจุของแบตเตอรี่มากๆ แล้ว ก็ควรพิจารณาว่ารุ่นนั้นมีระบบ Quick Charge หรือระบบชาร์ทด่วน มาด้วยหรือไม่ เพราะหากไม่มีคุณต้องรอนานมากเพื่อรอให้แบตเตอรี่เต็มเพื่อนำไปใช้ ปัจจุบัน ระบบชาร์ทด่วน มักอยู่ในมือถือรุ่นที่เป็นระดับเรือธงของหลายยี่ห้อ ตัวอย่างเช่น Qualcomm Quick Charge 3.0 สามารถประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่จะ 0 เปอร็เซ็นต์ ไปเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ได้โดยใช้เวลาเพียง 35 นาที

สรุป

การที่จะเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนนั้น ขึ้นกับหลากหลายปัจจัย นอกจากความชื่นชอบแบรนด์และเงินในกระเป๋าที่สามารถจ่ายได้แล้ว ความคุ้นเคยในการใช้งานและข้อดีของระบบปฏิบัติการแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน (iOS, Android หรือ Windows) ก็สามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจ โทรศัพท์มือถือระดับพรีเมี่ยมของแต่ละแบรนด์หรือที่เรียกกับว่า รุ่นเรือธง นั้น จะมีความสามารถและสเปคที่ส่วนที่เพียบพร้อมและไม่จำเป็นห่วงเรื่องประสิทธิภาพเท่าไรนักหากคุณมีงบประมาณพอที่จะซื้อ แต่หากคุณมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ หรือคุณเกิดคำถามในใจว่า ทำไมต้องจ่ายเงินหลายหมื่นบาทเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือระดับเรือธงเหล่านั้นด้วย คุณสามารถเลือกโทรศัพท์มือถือระดับกลาง ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นระบบปฏิบัติการ Android แทนได้ โดยต้องดูสเปคในการเลือกซื้อเป็นหลัก แต่หากคุณเป็นผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบทั่วไป เช่น โทรเข้าโทรออก, เล่น Line แชทพูดคุย, เล่นโซเชียลมีเดีย Facebook กดไลค์กดแชร์, ดูคลิปวิดีโอ Youtube เป็นครั้งคราว เป็นต้น ไม่ได้เล่นเกมหนักๆ ถ่อยรูป หรือเซลฟี่ที่ต้องการภาพคมชัดมากๆ การเลือกโทรศัพท์มือถือระดับราคาไม่กี่พันบาทก็เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว

ขอบคุณ PlayXPro และ DeviceXtra ที่ช่วยแชร์

No comments

No comments :

Post a Comment